Acne

การดูแลรักษาสิว

โปรแกรมรักษาสิวและฟื้นฟูผิวภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ

Acne Control Program ที่ F Clinic คือโซลูชันแบบองค์รวมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวอุดตัน สิวเรื้อรัง รอยแดงจากสิว และการเกิดสิวซ้ำซาก โปรแกรมนี้ถูกออกแบบให้ครอบคลุมทุกปัญหาด้วยเทคนิคทางการแพทย์และเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อช่วยลดการอักเสบ กำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว และกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ผิว

การรักษาเริ่มต้นด้วย Ultraclear Acne โปรแกรมเฉพาะสำหรับผู้ที่มีสิวอุดตันและอักเสบ โดยจะประเมินความรุนแรงของสิวและสภาพผิวแต่ละบุคคล เพื่อวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสมในแต่ละขั้นตอน เมื่ออาการสิวลดลงแล้ว แนะนำให้รักษาต่อเนื่องด้วย เลเซอร์ Enlight Pro เพื่อรักษารอยแดงและรอยดำหลังสิวหาย เลเซอร์จะช่วยฟื้นฟูสีผิวให้กลับมาเรียบเนียน สม่ำเสมอ และลดโอกาสการเกิดแผลเป็นในระยะยาว

Ultraclear Acne

1. การกดสิว

เป็นกระบวนการกดสิวอย่างแม่นยำ โดยใช้เครื่องมือปลอดเชื้อในการขจัดสิวอุดตัน สิวหัวดำ และสิวหัวขาวออกจากรูขุมขนที่อุดตัน

ขั้นตอนนี้มีความสำคัญในการลดการสะสมของสิ่งอุดตันภายในผิว และช่วยป้องกันการเกิดสิวในอนาคต

1.1. การฉีดสิวอักเสบ (เฉพาะกรณีที่จำเป็น)

หรือที่เรียกว่า Cortisone Injection เป็นการฉีดยากลุ่มสเตียรอยด์ชนิดเจือจางเข้าสู่สิวอักเสบชนิดตุ่มหนองหรือนูนแดงลึก (Nodules / Cysts) เพื่อช่วยลดการอักเสบ บวมแดง และความเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว ขั้นตอนนี้ช่วยให้สิวแห้งและยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว พร้อมลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแผลหรือหลุมสิวในอนาคต

Ultraclear Acne

 

3. การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวด้วยคลื่นอัลตราโซนิก

ขั้นตอนนี้ใช้หัวอัลตราโซนิกในการผลักสารบำรุง เช่น คอลลาเจน และ เจลว่านหางจระเข้สูตรพิเศษ ลงสู่ชั้นผิวอย่างล้ำลึก เพื่อช่วย:

  • ลดการอักเสบของผิว

  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ปรับผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส

เป็นขั้นตอนสำคัญในการฟื้นฟูผิวหลังการทำความสะอาดหรือลดการระคายเคืองจากการกดสิว

 

 

5. การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น หรือ PRP (ไม่จำเป็นต้องทำในทุกเคส)

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้นซึ่งสกัดจากเลือดของคนไข้เอง จะถูกฉีดเข้าสู่บริเวณที่มีรอยสิวหรือการอักเสบ

ประโยชน์ของ PRP ในการดูแลผิวเป็นสิว:

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหายจากสิวหรือการอักเสบ

  • ลดเลือนรอยแผลเป็นหลังสิวอย่างมีประสิทธิภาพ

เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยแผลสิวหรือมีผิวที่ต้องการการฟื้นฟูในระดับลึกเป็นพิเศษ และต้องการให้แผล/รอยต่างๆ หายไวขึ้น

Extraction

 2. มาส์กฆ่าเชื้อสิว

มาสก์บำรุงผิวสูตรเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับผู้มีปัญหาสิว อุดมด้วย Salicylic Acid, Benzoyl Peroxide และสารต้านเชื้อสิวอื่น ๆ เพื่อช่วย:

  • ปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง

  • ลดการอุดตันของรูขุมขน

  • ดูดซับความมันส่วนเกิน

  • ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้หลังการกดสิว เพื่อปลอบประโลมผิวและจัดการกับต้นตอของการเกิดสิวในระยะยาว

Hydra

 

4. การบำบัดด้วยแสงสีฟ้า (Blue Light Therapy)

การใช้แสงสีฟ้าในช่วงคลื่นเฉพาะ เพื่อตรงเข้าจัดการกับแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวอักเสบ
แสงสีฟ้าจะกระตุ้นปฏิกิริยาโฟโตไดนามิก (Photodynamic Reaction) ช่วยทำลายแบคทีเรียโดยไม่ทำร้ายผิวโดยรอบ

ประโยชน์ของการบำบัดด้วยแสงสีฟ้า:

  • ลดจำนวนสิวอักเสบและสิวผดผื่น

  • ช่วยปลอบประโลมผิว ลดรอยแดง

  • ฟื้นฟูความใสและความเรียบเนียนของผิวโดยรวม

Stemcell injection

ผลที่จะได้รับ

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์ระยะสั้น (หลังทำ 1–3 ครั้ง):

  • รอยแดงและอาการบวมจากสิวอักเสบลดลงอย่างเห็นได้ชัด

  • สิวหัวดำและสิวหัวขาวลดลง

  • ผิวสงบลง มันน้อยลง ระคายเคืองน้อยลง

  • ผิวเรียบเนียนขึ้น และชุ่มชื้นขึ้นอย่างสัมผัสได้

ผลลัพธ์ระยะกลางถึงระยะยาว (หลังทำ 4–6 ครั้งขึ้นไป):

  • สิวใหม่เกิดน้อยลง และความถี่ในการเกิดซ้ำลดลง

  • รูขุมขนกระชับ ผิวหน้าดูเนียนใสขึ้น

  • รอยดำและรอยแผลจากสิวจางลง

  • เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น ฟื้นฟูผิวได้ดีขึ้น

  • ผิวสุขภาพดีขึ้นโดยรวม กระจ่างใส และสมดุลมากขึ้น

💡 หมายเหตุ: ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการใช้ชีวิต ฮอร์โมน การดูแลผิวประจำวัน และการปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำทรีตเมนต์อย่างสม่ำเสมอ

ควรทำบ่อยแค่ไหน?

  • ระยะเริ่มต้น: สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือทุก 2 สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 1–2 เดือน (ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสิว)

  • ระยะคงสภาพ: ทำเดือนละ 1 ครั้ง หรือทุก 3–4 สัปดาห์ เพื่อรักษาความสะอาดของผิวและป้องกันการเกิดสิวใหม่

จะรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างไร?

Enlight Pro

คือเทคโนโลยี IPL (Intense Pulsed Light) แบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ใช้คลื่นแสงกว้างในการจัดการกับเม็ดสีส่วนเกิน รอยแดง และเส้นเลือดฝอยใต้ผิว แม้ทางเทคนิคจะไม่ใช่ “เลเซอร์” แต่ IPL ทำงานคล้ายคลึงกัน โดยการยิงพลังงานลงลึกสู่ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

 

ประโยชน์ของ Enlight Pro ต่อรอยแผลเป็นจากสิว:

  • ลดรอยแดงและเม็ดสีหลังสิว ซึ่งมักหลงเหลือจากสิวอักเสบ

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน และลดความลึกของแผลเป็นตื้น ๆ

  • ปรับผิวให้กระจ่างใสและเนียนสม่ำเสมอ โดยลดความหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ

Enlight Pro เหมาะสำหรับผู้ที่มี รอยดำ/แดง และ แผลเป็นสิวชนิดตื้น (mild atrophic scars) หลังผ่านการรักษาสิวหลัก เช่น Ultraclear Acne

ควรดูแลผิวที่บ้านอย่างไรหลังทำ Ultraclear Acne?

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดจากการรักษาสิวด้วย Ultraclear Acne ที่ F Clinic แนะนำให้ปฏิบัติตามแนวทางต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด:

1. ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเป็นสิว

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) และ ปลอดภัยสำหรับผิวเป็นสิว

  • ควรมี คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน, เซรั่มที่มีกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือ AHA/BHA, และ มอยส์เจอไรเซอร์สูตรปราศจากน้ำมัน

  • หลีกเลี่ยงการใช้ สครับแรง ๆ หรือ โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคือง

2. ปกป้องผิวจากแสงแดด

  • ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน เพื่อป้องกัน การเกิดรอยดำ และ การอักเสบหลังทำทรีตเมนต์

  • เลือกกันแดดเนื้อบางเบา ไม่มัน ไม่อุดตัน เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว

3. งดบีบ แกะ หรือสัมผัสสิว

  • การบีบสิวหรือจับหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้ อักเสบมากขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิด รอยแผลเป็นถาวร

4. ปรับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสม

  • รับประทานอาหารที่สมดุล หลีกเลี่ยง ของหวานและผลิตภัณฑ์จากนมวัว ซึ่งอาจกระตุ้นการเกิดสิวในบางราย

  • พักผ่อนให้เพียงพอ และ ลดความเครียด

  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นจากภายใน

F Clinic มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเฉพาะสำหรับผิวที่เป็นสิว โดยข้อแนะนำการใช้ต่างๆ จะอยู่ภายการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยดูแลผิวคุณอย่างตรงจุด